ไส้เดือน
ไส้เดือนดิน คือหนึ่งในผู้ช่วยเกษตรกรที่ไม่พูด ไม่บ่น และไม่หยุดทำงานตลอด 24 ชั่วโมง พวกมันไถพรวนดินให้ฟรีทุกวัน กินเศษใบไม้ เศษพืช ซากอินทรีย์ แล้วขับถ่ายออกมาเป็น “มูลไส้เดือน” ที่อุดมไปด้วยจุลินทรีย์และธาตุอาหารพืช ใครที่เคยใช้มูลไส้เดือนก็จะรู้เลยว่าพืชผักแข็งแรง โตเร็ว และรสชาติดีกว่าที่ใช้ปุ๋ยเคมีด้วยซ้ำ “ดิน” ถือเป็นปัจจัยหลักของการปลูกพืช เนื่องจากเป็นเเหล่งอาหารที่จะหล่อเลี้ยงให้พืชได้เจริญเติบโต และปริมาณของผลผลิต หากในแปลงดินมีไส้เดือนอาศัยอยู่ ในดินนั้นจะมีมูลไส้เดือนที่มีประโยชน์ เนื่องจากมูลไส้เดือนเป็นธรรมชาติ 100% จะส่งผลให้พืชเติบโตสมบูรณ์แข็งแรงตามธรรมชาติ ทำให้พืชต้านทานทั้งโรคพืชและโรคแมลง อีกทั้งยังประหยัดค่ายาฆ่าแมลงและยาฆ่าเชื้อต่างๆ เกษตรกรรุ่นใหม่ที่ทดลองในแปลงจริงพบว่า หากดินปลูกผักมีไส้เดือนเฉลี่ย 10 ตัว/ตารางเมตร จะส่งผลต่อพืชโดยตรงในเรื่องต่อไปนี้ เมื่อไส้เดือนดูดอาหารและผ่านระบบย่อยในลำไส้แล้วออกมา จะมีโมเลกุลสารอาหารที่เล็กมาก และมีความเย็น พืชสามารถดูดซึมอาหารไปใช้ได้ทันที และมีสารอาหารหลากหลาย ครบและเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของพืชทุกชนิด มีจุลินทรีย์ที
คุณนีม-ณิชนันทน์ หะยีลาเต๊ะ หญิงแกร่งแห่งรั้วธรรมศาสตร์ ที่หยัดยืนร่ำเรียนหลักสูตรวิชาต่างๆ เพื่อนำความรู้มาต่อยอดประกอบอาชีพ จนในที่สุดก็คว้า ป.โท สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาได้อีก 1 ใบ ในระหว่างที่เธอศึกษาเล่าเรียนอยู่นั้น ได้มีโอกาสเดินทางไปดูงานในสถานที่ต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ ประเทศญี่ปุ่น และหากใครเป็นคนในวงการเกษตรย่อมรู้ดีว่าประเทศนี้เขาจะมีความล้ำสมัยในการทำเกษตร และเขายังให้ความสำคัญในเรื่องของ “ดิน” มากๆ เพราะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการทำเกษตร ดังนั้น สิ่งที่ช่วยฟื้นฟูดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องเป็นสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “ไส้เดือน” คุณนีม อยู่บ้านเลขที่ 26/152 ซอย 12 หมู่บ้านคันทรีปาร์คแคลิฟอร์เนีย 16 ตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี “ช่วงเข้ามหาลัยหนูไม่ได้ตั้งใจเรียนด้านเกษตรหรอก เพราะจากที่รับรู้มาว่า ยิ่งทำยิ่งลำบาก มันเหนื่อย มันร้อน แต่เมื่อได้มาพบกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านได้แนะความรู้ต่างๆ และพาไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น 2 ครั้ง มันทำให้ทัศนคติของตัวเองที่เคยมองงาน
“ไส้เดือน” เปรียบเสมือนเพื่อนในไร่ ที่ทำหน้าที่สร้างความอุดมสมบูรณ์ต่อระบบนิเวศ สร้างอินทรียสาร และมีส่วนช่วยทำให้โครงสร้างของดินดีขึ้น โดยการเคลื่อนที่ชอนไชในดินทำให้ดินร่วนซุย เกิดช่องว่าง และเพิ่มปริมาณออกซิเจน ทำให้การระบายน้ำและอากาศไปสู่ดินได้ดีขึ้น วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านได้รวบรวม ไส้เดือน 4 สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงในไทย ไปดูว่าแต่ละสายพันธุ์เหมาะสำหรับแบบไหน และข้อดีข้อเสียคืออะไรไปดูกันเลย✨ 🪱สายพันธุ์ แอฟริกัน ไนท์ ครอเลอร์ (African Night Crawler) หรือ AF ✨เป็นไส้เดือนขนาดใหญ่ ลำตัวมีสีน้ำตาลแดงปนเทา สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว มีความสามารถในการย่อยสลายขยะในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว ผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดีจากธรรมชาติ ปรับปรุงสภาพดินให้ร่วนซุย ช่วยเพิ่มและแพร่กระจายจุลินทรีย์ในดิน เป็นประโยชน์ต่อพืช ช่วยกำจัดขยะอินทรีย์ เหมาะเป็นอาหารสัตว์และเป็นเหยื่อสำหรับตกปลา 👍🏻ข้อดี กินเก่ง โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง ขยายพันธุ์เร็ว ลูกดก ตัวโต เหมาะในการนำไปใช้ประโยชน์เป็นอาหารโปรตีน เช่น อาหารกบ หรือนก 👎🏻ข้อเสีย หากผู้เลี้ยงฝึกให้กินแต่โปรตีน หรืออาหารดีๆ ไส้เดือนพันธุ์นี้มักไม่กินขยะ ตัวมัก
คุณสุวรรณ วัฒนาวงศ์ (คุณป็อป) อายุ 44 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 339/52 หมู่ที่ 3 บางกรวย-ไทรน้อย เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ปัจจุบัน คุณสุวรรณเป็นเจ้าของฟาร์มไส้เดือนผักกินดี ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรเพาะไส้เดือน ปุ๋ยมูลไส้เดือน และปลูกผักปลอดสารพิษ คุณสุวรรณ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นความเป็นมาของฟาร์มไส้เดือนผักกินดี เริ่มมาจากตนเองทำงานประจำและทำงานเสริมเป็นช่างถ่ายภาพ หลังจากเวลาว่างจึงอยากหารายได้เสริมเพิ่มที่สามารถทำที่บ้านได้ จึงเริ่มมองดูพื้นที่บริเวณบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่อาศัยพื้นที่บริเวณบ้านจึงอยู่ใต้หลังคา จึงได้หาข้อมูลพืชที่สามารถปลูกในร่มได้ และใช้ระยะเวลาในการปลูกไม่นาน จึงตัดสินใจว่าจะปลูกต้นทานตะวันอ่อน เริ่มจากปลูกทานเอง เมื่อเหลือก็นำไปจำหน่ายให้กับคนในพื้นที่ จึงตั้งชื่อฟาร์มในตอนแรกว่า ผักกินดี ถือว่าเป็นรายได้เสริมอีกทางที่เข้ามาและยังเป็นกิจกรรมยามว่างให้กับลูกได้ดีอีกด้วย แต่แน่นอนว่าทุกสิ่งที่ลงมือทำกว่าจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ต้องมีปัญหาเข้ามาให้ได้แก้ไข คุณสุวรรณ กล่าวว่า เมื่อเข้าช่วงฤดูฝน ต้นอ่อนที่ปลูก พบเจอกับปัญหาเชื้อราหนักมาก พยายามหาวิธีแก้ปัญห
ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลง Steinernema carpocapsae (สายพันธุ์ต่างประเทศ) ที่สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืชนำเข้ามาจากต่างประเทศ นำเข้ามาเลี้ยงขยายเพื่อใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืช จนปัจจุบันได้รับความนิยมให้นำไปใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืชมากมาย เช่น หนอนกินใต้ผิวเปลือกลองกอง หนอนกระทู้หอม ตัวอ่อนด้วงหมัดผัก หนอนด้วงกินรากสตรอเบอร์รี่ หนอนผีเสื้อโรงเห็ด ด้วงงวงมันเทศ แมลงศัตรูในสนามหญ้า ฯลฯ ซึ่งมีเกษตรกรให้ความสนใจและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นำไปใช้ในหลายพื้นที่ แต่ขั้นตอนและวิธีการเพาะเลี้ยงไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงชนิดนี้มีความยุ่งยากที่จะนำไปเพาะขยายต่อ ทางกลุ่มงานการปราบศัตรูพืชทางชีวภาพ กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร จึงได้หาวิธีการผลิตไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศอย่างง่ายขึ้นมา เกษตรกรสามารถนำไปผลิตเองได้ ทำความรู้จักกับไส้เดือนฝอยศัตรูแมลง สายพันธุ์ต่างประเทศ ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก มองเห็นได้ยากด้วยตาเปล่า มีรูปร่างยาวเรียวบางคล้ายเส้นด้าย ส่วนหัวกลมมน ไม่มีข้อปล้อง ส่วนหางแคบและปลายเรียว มีลำตัวยาวประมาณ 0.4-1.0 มิลลิเมตร ไส้เดือนฝอยศัต
ไส้เดือนดินถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่เป็นประโยชน์มากกว่าสัตว์ที่เป็นโทษต่อมนุษย์ โดยเฉพาะด้านการปรับปรุงโครงสร้างและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน โดยช่วยพลิกกลับดิน ทำให้เกิดการผสมคลุกเคล้าแร่ธาตุในดิน อีกทั้งยังเป็นการย่อยสลายสารอินทรีย์ในดิน ซากพืช ซากสัตว์ และอินทรียวัตถุต่างๆ ทำให้ธาตุอาหารต่างๆ อยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เพิ่มและกระจายจุลินทรีย์ในดินที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เพราะการชอนไชของไส้เดือนดินทำให้ดินร่วนซุย มีการระบายน้ำ และอากาศดีขึ้น ปัจจุบันมีการนำไส้เดือนมาเลี้ยงสร้างรายได้กันอย่างแพร่หลาย คุณรัชพงศ์ โรจน์รุ่งศศิธร หรือ คุณสร เจ้าของฟาร์มไส้เดือนพนัสนิคม ตั้งอยู่ที่สามเเยกโรงน้ำเเข็ง ถนน 3246 พนัสนิคม-เกาะโพธิ์ ตำบลหมอนนาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี หนุ่มพนักงานประจำใช้เวลาว่างหลังเลิกงานเลี้ยงไส้เดือนสร้างรายได้เสริมเกือบครึ่งแสนต่อเดือน คุณสร เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันทำงานประจำอยู่ฝ่ายบริหารจัดการของบริษัทต่างชาติ ย่านพนัสนิคม ส่วนการเลี้ยงไส้เดือนเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริม โดยสืบเนื่องมาจากที่บ้านเป็นครอบครัวเกษตรกรมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จนมาถึงรุ่นของตนเองที่มีความชื่นชอ
ปัจจุบัน เรื่องของสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจและให้ความร่วมมือกันอย่างกว้างขวาง หนึ่งในสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อมคือ การกำจัดขยะอินทรีย์ต่างๆ เช่น เศษอาหาร เศษผักและผลไม้ เป็นต้น หากกำจัดไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดปัญหาหลายประการ เช่น มลพิษทางน้ำและกลิ่น ปัญหาขยะล้นเมือง แหล่งเพาะเชื้อโรค แมลง ที่ส่งผลต่อมวลมนุษย์ วิธีการหนึ่งในการกำจัดขยะอินทรีย์คือ การใช้ไส้เดือนดินเพื่อกำจัดขยะ ในทางตรงข้ามแล้ว ยังทำให้เกิดประโยชน์ด้านการเกษตรหลายชนิด ได้เป็นปุ๋ยไส้เดือนดิน และปุ๋ยน้ำหมักไส้เดือนดิน ครูพิศมัย ลิ้มสมวงศ์ อดีตข้าราชการครู โรงเรียนบ้านแม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เล่าให้ฟังว่า หลังจากจบการศึกษาด้านการเกษตรที่โรงเรียนเกษตรกรรมพิษณุโลก หรือเกษตรบ้านกร่าง รุ่นที่ 8 ได้สอบบรรจุเป็นครูสอนในจังหวัดพิษณุโลกหลายปี ล่าสุดย้ายมาสอนที่โรงเรียนบ้านแม่โจ้ ที่เป็นถิ่นกำเนิดของตนเอง ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ในฐานะที่เป็นครูเกษตรจึงได้รับการคัดเลือกให้เข้าอบรมเรื่องการเลี้ยงไส้เดือนดิน ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาไส้เดือนดิน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จากนั้นจึงสร้างเรือนโรงเลี้ยงไส้เดือนดินขนาดเล็กๆ ภายในโ
คุณสร เจ้าของฟาร์มไส้เดือนพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี หนุ่มพนักงานประจำใช้เวลาว่างหลังเลิกงานเลี้ยงไส้เดือนสร้างรายได้เสริมเกือบครึ่งแสนต่อเดือน “พอเริ่มเลี้ยงไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดจากไส้เดือนหลายเรื่องด้วยกัน เริ่มตั้งแต่เป็นตัวช่วยย่อยสลายขยะในครัวเรือน เศษผัก เศษผลไม้ เศษหญ้าที่เป็นอินทรียวัตถุที่ย่อยสลายตามธรรมชาติได้เอง และในส่วนของการสร้างรายได้ การเลี้ยงไส้เดือนลงทุนเพียง 1 ครั้ง แต่สร้างรายได้ในระยะยาว ขั้นตอนการเลี้ยง อาหาร ก็ไม่ยุ่งยากมีแค่มูลวัว ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่าย จึงมองว่าการเลี้ยงไส้เดือนเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ทั้งสร้างปุ๋ย สร้างรายได้ ก็เริ่มมีการขยับขยายทำอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน” #ปุ๋ยมูลไส้เดือน #เลี้ยงไส้เดือน #ไส้เดือน #เทคโนโลยีชาวบ้าน #technologychaoban
มูลไส้เดือน มีคุณประโยชน์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะการนำมาทำเป็นปุ๋ย บำรุงต้นไม้ เพราะในมูลไส้เดือนนั้น จะมีจุลินทรีย์และแบคทีเรียจำนวนมาก ที่จะช่วยเร่งเซลล์พืชให้ขยายและเติบโตเร็วขึ้น โดยเฉพาะรากแก้ว ทำให้รากแก้วขยายและโตเร็ว ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้ดี จากปัญหาการร่อนมูลไส้เดือนแบบเดิมที่ต้องใช้พลังงานจากแรงงานคนจำนวนมาก สู่ “เครื่องร่อนมูลไส้เดือน” นวัตกรรมสร้างสรรค์ ที่ช่วยเหลือผู้ใช้งานได้จริง ไม่ต้องทนกับปัญหาการปวดหลังหรือเสียสุขภาพในการนั่งร่อนหรือคัดแยกมูลไส้เดือนนานๆ โดย คุณศิลา จำเนียรสุข หรือ คุณเฟรม ผู้ประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมและพัฒนา เครื่องร่อนมูลไส้เดือน ในพื้นที่ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี จากผู้ใช้งานจริง สู่ผู้คิดค้นนวัตกรรมเครื่องร่อนมูลไส้เดือน เมื่อสอบถามถึงจุดเริ่มต้นของเครื่องร่อนมูลไส้เดือน คุณเฟรม เล่าให้เราฟังว่า จากเดิมตนเองนั้นทำงานประจำควบคู่กับการเลี้ยงไส้เดือนเป็นงานอดิเรกและอาชีพเสริมหลังเลิกงานในช่วงเย็น จนสุดท้ายธุรกิจการเลี้ยงไส้เดือนเริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณเฟรมดูแลต่อไม่ไหว จึงเลิกเลี้ยงไส้เดือนในที่สุด ก่อนจะเล็งเห็นปัญหาในเรื่องข
ทุกชีวิตของคนเราที่มีอยู่สำหรับวันนี้นั้น อดีตต้องให้ผ่านไปให้หมดสิ้น พรุ่งนี้ยังมาไม่ถึงอย่าพยายามดึงเวลาของอนาคตมาใช้ วันแห่งชีวิตของเราคือทุกๆ วันที่เรามีอยู่และเป็นอยู่ ทำวันนี้วันของเราให้เป็นวันที่ดีที่สุด ทุกอย่างก็จะดีที่สุดไปด้วยเช่นกัน ชีวิตคนเรานั้นไม่ได้มีไว้แค่หายใจเท่านั้น การก้าวเดินของชีวิตที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ล้วนมีเรื่องราวและความแตกต่างเกิดขึ้นในแต่ละคน ความแตกต่างย่อมสวยงามเสมอ เส้นทางชีวิตของใคร เขาคนนั้นต้องเป็นผู้กำหนดด้วยตัวเอง เมื่อต้องการที่จะก้าวไปบนเส้นทาง เดินห่าง…จากความจน ให้ได้ชนิดสมบูรณ์แบบนั้น แน่นอนว่าไม่ได้เกิดจากบุญอุ้มสมหรือฟ้าช่วยลิขิต ทุกอย่างล้วนก่อเกิดขึ้นมาจากวิถีทางของผู้ที่มีไม่ท้อแท้บนเส้นทาง ก้าวไปอย่างมุ่งมั่นพร้อมนำความขยันและความอดทน ร่วมเป็นเพื่อนก้าวเดินไปด้วยกันเพราะเราคือนักเดินทางผู้สู้ชีวิต ก่อนอื่นขอขอบพระคุณอย่างมากมายจากเทคโนโลยีชาวบ้านและผู้เขียน ที่มีแฟนๆ ให้แรงใจกันมาตลอด เพราะทุกครั้งเมื่อหนังสือวางแผงมักจะมีการส่งเสียงโทร. 081-846-0652 และทางเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ สมยศ ศรีสุโร หรือ ไอดีไลน์ Janyos จากแฟนๆ ไปให้แรงใจเสมอก