ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตระหนักดีถึงผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เป็นโจทย์ท้าทายในการวิจัยปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และถั่วลิสงให้ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเน้นคัดเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่เพาะปลูก ต้านทานต่อโรคแมลงศัตรู และให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเป็นพืชทางเลือกในการพลิกฟื้นภาคการเกษตรของไทย ให้เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน โดยผลงานปรับปรุงพันธุ์พืชดังกล่าว ประกอบด้วย ถั่วลิงสงสายพันธุ์ “เคยู อาร์ด้า 20 (KU ARDA 20) ที่ให้ผลผลิตสูง 393 กก./ไร่ อายุการเก็บเกี่ยวอยู่ที่ 100-110 วัน มีจำนวนเมล็ด 2-4 เมล็ด/ฝัก หนัก 100 เมล็ด 53 กรัม ต้านทานโรคดี สามารถนำไปแปรรูปเป็นขนมอบกรอบ ถั่วฝักสด และถั่วต้ม เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเดี่ยวพันธุ์สุวรรณ 5720 (sw 5720) เมล็ดเป็นสีส้มเหลือง และกึ่งหัวแข็ง ผลผลิตเฉลี่ยที่ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 1,346 กก./ไร่ (ในดินนาฤดูแล้ง) และประมาณ 1,785 กก./ไร่ (ในดินไร่) อายุเก็บเกี่ยว 110–120 วัน เปอร์เซ็นต์การกะเทาะสูง ปร
นายเอกราช ตรีลพ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การผลิตและการตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และน่าน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่สำคัญในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งจากการลงพื้นที่ของ สศก. โดยทีมสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 พบว่า ฤดูการผลิตปี 2567/68 ทั้ง 3 จังหวัดมีเนื้อที่เพาะปลูกรวมประมาณ 1.05 ล้านไร่ (เชียงราย 260,404 ไร่ เชียงใหม่ 286,950 ไร่ และน่าน 505,173 ไร่) คิดเป็นร้อยละ 16.25 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งประเทศ ซึ่งลดลงจากปี 2566/67 ที่มีเนื้อที่เพาะปลูกรวมประมาณ 1.06 ล้านไร่ หรือลดลงร้อยละ 0.94 เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากราคาปัจจัยการผลิต เช่น เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช/วัชพืช ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกมันสำปะหลังและข้าว ซึ่งสามารถเก็บท่อนพันธุ์และเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองได้ อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง เช่น ยางพารา กาแฟ และโกโก้ เป็นต้น ด้านผลผลิตรวมของทั้ง 3 จังหวัด คาดว่ามีปริมาณ 0.73 ล้านตัน (เชียงราย 18
ตามที่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด หรือ CPP ผู้ดำเนินธุรกิจเมล็ดพันธุ์ และ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วซ จำกัด(มหาชน) หรือ BKP ผู้ดำเนินธุรกิจจัดซื้อข้าวโพดอาหารสัตว์ ได้ผนึกกำลังกับสมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเมียนมา หรือ MCIA ร่วมมือกันยกระดับการตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเมียนมา ไม่รับซื้อจากพื้นที่ป่า และพื้นที่ที่มีการเผาแปลง โดยใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อตรวจสอบจุดความร้อน (Hot Spot) รวมถึงใช้ระบบบล็อกเชน (Blockchain) ในการจัดเก็บและจัดการข้อมูล โดยพ่อค้าผู้รวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเมียนมาจะเข้ามาใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับที่บริษัทในเครือซีพีพัฒนาขึ้นเพื่อร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเมียนมาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยนำร่องทันทีบนเนื้อที่กว่า 570,000 เอเคอร์ที่รัฐฉานใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดขนาดใหญ่ของเมียนมา ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการลดหมอกควันข้ามแดน ปกป้องสิ่งแวดล้อม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ นายวรสิทธิ์ สิทธิวิชัย ประธานคณะผู้บริหารฝ่ายปฏิบั
ซีพี จับมือ “เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส (CPP) กรุงเทพโปรดิ๊วส (BKP)” ประกาศความร่วมมือกับ “สมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดเมียนมา หรือ MCIA” นำร่องเปิดระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ทุกภาคส่วน ผู้ผลิต คู่ค้า ฯลฯ ร่วมใช้ ยกระดับความยั่งยืนและโปร่งใสในอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ตอกย้ำนโยบาย “ไม่รับซื้อ และไม่นำเข้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากพื้นที่รุกป่า และพื้นที่ที่มาจากการเผา” กรุงย่างกุ้ง, ประเทศเมียนมา – เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 – เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โดย เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส (CPP) และ กรุงเทพโปรดิ๊วส (BKP) ร่วมกับพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและเอกชนในเมียนมา ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในการเปิดระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของซีพีให้ทุกภาคส่วน ทั้ง ผู้ผลิต คู่ค้าและหน่วยงานต่าง ๆ สามารถร่วมใช้ได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเมียนมา ทั้งนี้โดยจัดให้มีการแถลงความร่วมมือเกี่ยวกับโครงการยกระดับการตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเมียนมา โดยไม่รับซื้อจากพื้นที่ที่มีการเผาและพื้นที่ป่าดั้งเดิม โดยการแถลงคว
น้ำท่วมจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปีที่สร้างผลกระทบอย่างมากให้แก่ประชาชนและธุรกิจในพื้นที่ แม้สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการฟื้นฟูเมืองให้กลับมาเหมือนเดิม ไม่เพียงส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อภาคเหนือแต่ยังเป็นบทเรียนที่ต้องเร่งศึกษาเพื่อบริหารจัดการไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกในอนาคต จากความคิดเห็นและแนวคิดที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าข้าวโพดบนดอยถูกยกขึ้นมาเป็นจำเลยสำคัญของสถานการณ์นี้ เมื่อปริมาณฝนจำนวนมากตกลงบนดอยที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่จึงขาดตัวช่วยชะลอความเร็วของน้ำ แถมยังพัดพาเอาโคลนลงมาด้วยอย่างที่เห็น อย่างไรก็ตาม การใช้ตัวเลขพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดในเชียงใหม่ที่มีอยู่ประมาณ 285,000 ไร่ และกว่า 303,000 ไร่ ในเชียงรายว่าเป็นต้นเหตุของน้ำท่วมใหญ่ดูเป็นการเหมารวมที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะพื้นที่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นข้าวโพดบนพื้นที่ป่าทั้งหมด และไม่สามารถแยกออกได้ว่าปลูกบนพื้นที่ราบเท่าไหร่ การโยนบาปให้ข้าวโพดบนดอยเพียงเรื่องเดียวดูจะไม่เป็นธรรมนัก ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ยังไม่ถูกนำขึ้นมาพูดบนโต๊ะอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพราะทุกวัน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ เตรียมเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อทดแทนการนำเข้าอีกประมาณ 4 ล้านตัน ให้เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ โดย ปี 2567 คาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นมีประมาณ 4.99 ล้านตัน ราคาเฉลี่ย (มกราคม-มิถุนายน) อยู่ที่ 8.78 บาทต่อกิโลกรัม มูลค่าการผลิต 43,787.27 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้มีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา ที่ประสบกับภาวะเอลนีโญ ประกอบกับราคาในปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง จูงใจให้เกษตรกรเอาใจใส่มากขึ้น นายอนุสรณ์ เทียนศิริฤกษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรให้เป็น 3 เท่า ภายใน 4 ปี ตามนโยบายรัฐบาล กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยาที่มีภารกิจหน้าที่ในการศึกษาค้นคว้า วิจัยและพัฒนาวิชาการ เกี่ยวกับเทคโนโลยีปุ๋ยและสารปรับปรุงดิน รวมไปถึงการให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ยกับข้าวโพด ให้เกษตรกรที่ลงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลการวิเคราะห์ดินก่อนให
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย ที่ผ่านมาเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวข้าวโพดฝักแก่ที่มีอายุการปลูก 120 วันไปขายให้กับโรงงานแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ แต่ปัจจุบันนี้เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนมาตัดต้นข้าวโพดต้นสดที่มีอายุการปลูก 70 วันไปสับและหมัก เมื่อนำไปให้แพะและแกะกินจะได้รับโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุ ทำให้แพะและแกะโตไวและแข็งแรง แล้วยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและได้รับผลตอบแทนคุ้มทุน วันนี้จึงนำเรื่อง “เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตัดต้นสดมาสับและหมักให้แพะ-แกะกินแล้วโตไว” มาบอกเล่าสู่กันครับ คุณธีระศักดิ์ ขุมเงิน เกษตรจังหวัดลพบุรี เล่าให้ฟังว่า ฤดูแล้งปีนี้ปริมาณน้ำมีน้อยไม่พอเพียงจะให้เกษตรกรทำนาปรังหรือปลูกพืชที่ต้องใช้น้ำปริมาณมาก หากใครฝืนทำก็เป็นความเสี่ยงที่จะได้รับผลตอบแทนไม่คุ้มทุน ทางตันที่มีทางออก จึงขอแนะนำทางเลือกให้เกษตรกรปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย เช่น ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อเป็นอาหารและจำหน่าย หรือปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อตัดต้นสดอายุ 70 กว่าวันหลังปลูกแล้วนำมาสับและหมัก เมื่อให้แพะและแกะกินจะช่วยให้ตัวโตไวและแข็งแรง แล้วทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงด้วย หรือจะเพิ่มมูลค่าผลผลิตเกษตร
“สุริยา ห่วงถวิล” เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำไร่ ผู้นำกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาตรฐาน GAP ด้วยนวัตกรรมเกษตร เชื่อมโยงเครือข่าย สร้างตลาดรับซื้อที่แน่นอน กรมส่งเสริมการเกษตร ขอแสดงความยินดีกับ นายสุริยา ห่วงถวิล จังหวัดลพบุรี เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำไร่ ประจำปี พ.ศ. 2567 และเกษตรกรทุกท่านที่ได้รับรางวัลจากการประกวดผลงานเกษตรกร สถาบันเกษตรกร สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ และปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจำปี 2567 นายสุชาติ กลิ่นทองหลาง เกษตรจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า นายสุริยา ห่วงถวิล ผู้ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2567 สาขาอาชีพพืชไร่ เป็นเกษตรกรที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น การดัดแปลงเครื่องมือเก็บและวางสายน้ำหยดในแปลงปลูก ดัดแปลงอุปกรณ์ฉีดพ่นสารเคมีที่มีประสิทธิภาพสูง ติดตั้งอุปกรณ์ต่อพ่วง โดยติดตั้งเครื่องหว่านเมล็ดคู่กับผานแปร ประดิษฐ์เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน เป็นต้น ส่งผลให้ได้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เฉลี่ยต่อไร่สูงกว่าผลผลิตเฉลี่ยระดับประเทศ ร้อยละ 58.16 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP และมีการบริหารจัดการด้านการผล
บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ผู้จัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ยั่งยืน ให้กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ใช้ห้องปฏิบัติการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability Operations Room) เชื่อมภาพถ่ายดาวเทียม 3 ดวง กับพิกัดจีพีเอสระบุตำแหน่งแปลงปลูก ประมวลและแสดงผลด้วย Power BI ติดตามการเผาแปลงในพื้นที่ปลูกข้าวโพดในห่วงโซ่อุปทานซีพีแบบเรียลไทม์ รายงานสถานะรายวัน เมื่อพบจุดเผาเจ้าหน้าที่ลงพื้นพูดคุยกับเกษตรกรทันทีตอกย้ำความมุ่งมั่นจัดหาข้าวโพดตามนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ “ไม่รับซื้อ และไม่นำเข้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากพื้นที่รุกป่า และพื้นที่ที่มาจากการเผา” นายวรพจน์ สุรัตวิศิษฏ์ รองกรรมการผู้จัดการ กรุงเทพโปรดิ๊วส กล่าวว่า “พื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในห่วงโซ่อุปทานกรุงเทพโปรดิ๊วสครอบคลุมพื้นที่ปลูก กว่า 2 ล้านไร่ และเกษตรกรกว่า 40,000 ราย ลงทะเบียนในระบบตรวจสอบย้อนกลับของบริษัท ในช่วงเตรียมพื้นที่เพื่อเพาะปลูกข้าวโพดฤดูกาลใหม่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน บริษัทและพ่อค้าในเครือข่ายลงพื้นที่พูดคุยกับเกษตรกรทุกรายที่พบจุดความร้อนทั่วประเทศ ติดตามการเผาแปลงแบบทันท่วงที
กรมส่งเสริมสหกรณ์ปลื้ม 118 สหกรณ์ สนใจเข้าร่วมโครงการปลูกพืชหลังนากว่าแสนไร่ ส่วนใหญ่เลือกปลูกข้าวโพดเพราะเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ตลาดต้องการสูงปีละ 8 ล้านตัน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ในปีนี้ประเทศไทยเสี่ยงประสบภาวะภัยแล้ง ปริมาณน้ำโดยรวมในประเทศอาจจะไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้ง จึงต้องลดปริมาณการใช้น้ำ ลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง และหันมาส่งเสริมปลูกพืชทดแทนที่มีศักยภาพ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ปัจจุบันไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เพียงปีละ 4-5 ล้านตันเท่านั้น จึงต้องนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และพืชชนิดอื่นในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เป็นจำนวนมาก ดังนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นพืชทางเลือกหลังฤดูการทำนา ปีการผลิต 2566/67 เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เพียงพอกับความต้องการของตลาด และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงฤดูแล้ง โดยสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเป็นเงินหมุนเวียนเพิ่